Jimbo 
วินเซนต์ แวนโกะห์ เป็นศิลปินชื่อก้องโลกที่ไม่ว่าใครก็คงรู้จัก และมักจะถูกพูดถึงในแง่ว่าเป็นศิลปินที่เป็นบ้า แต่เขาเป็นบ้าจริงหรือ? ก่อนจะมาเป็นศิลปินแวนโกะห์เคยพยายามทำมาหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าขายภาพศิลปะ ครู หรือแม้กระทั่งนักบวช แต่ก็ล้วนไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีอาชีพใดที่เขาทนทำได้นานๆ ก่อนที่จะค้นพบความเป็นศิลปินในตัวเอง
‘ศิลปินไส้แห้ง’ คำพูดนี้ไม่ได้เกินจริงเลยสำหรับแวนโกะห์ ในช่วงชีวิตของแวนโกะห์ เขาขายภาพวาดของตัวเองแทบไม่ได้และจำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจากน้องชายของเขาอยู่ตลอดเวลา จากการวิเคราะห์จดหมายที่เขาเขียนถึงน้องชาย ระยะเวลาการทำงานเพียงสิบกว่าปีกับผลงานเป็นพันๆ ภาพ ทำให้นักประวัติศาสตร์ศิลปะสามารถอนุมานได้ว่า แวนโกะห์มีอาการในกลุ่มของไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองด้าน
จากการวิเคราะห์จดหมายที่เขาเขียนถึงน้องชาย ระยะเวลาการทำงานเพียงสิบกว่าปีกับผลงานเป็นพันๆ ภาพ ทำให้นักประวัติศาสตร์ศิลปะสามารถอนุมานได้ว่า แวนโกะห์มีอาการในกลุ่มของไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองด้าน
อาการของผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีทั้งช่วงที่พุ่งขึ้นสูง จะทำทุกอย่างอย่างบ้าคลั่งสุดโต่ง ไม่หลับไม่นอน ทำงานได้ไม่หยุด นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถสร้างผลงานได้มากมายในระยะเวลาอันสั้น และช่วงที่อารมณ์หดหู่หม่นหมอง จะซึมเศร้าหมดอาลัยตายอยาก ไร้เรี่ยวแรงจะมีชีวิตต่อ ในอดีตที่ผู้คนยังไม่มีความรู้เรื่องอาการทางจิต แวนโกะห์จึงถูกชาวบ้านและทางการสรุปว่าเป็นบ้าและต้องย้ายเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช
ภาพวาดชุด The Starry Night เป็นภาพวาดที่ถูกวาดในช่วงท้ายของชีวิตที่แวนโกะห์รักษาตัวในโรงพยาบาล เราจะสังเกตเห็นว่าเส้นสายเต็มไปด้วยอารมณ์ที่แปรปรวน สับสน หมุนวน ด้วยเทคนิคการวาดแบบป้ายสีโดยตรง สีจะมีน้ำหนักความนูนมากกว่าการใช้พู่กัน แสดงสภาพจิตใจของเขาได้เป็นอย่างดี
ตำแหน่งดวงดาวแต่ละดวงในภาพวาด The Starry Night (1889) ที่โด่งดังที่สุดของเขา เป็นตำแหน่งที่ถูกต้องตามสภาพท้องฟ้าในคืนนั้นจริงๆ จึงสรุปได้ว่าภาพวาดท้องฟ้าชุดนี้วาดจากสถานที่จริงไม่ใช่เพียงแค่ความทรงจำ The Starry Night จึงไม่ได้แค่ถ่ายทอดทัศนียภาพ แต่ยังบอกเล่าสภาพจิตใจของแวน โก๊ะ ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสแนวคิด และศึกษาเทคนิคของจิตรกรชื่อก้องโลกคนนี้ต่อไป
ใครอยากก้าวเข้าไปในโลกของศิลปินระดับตำนาน ถูกโอบล้อมไว้ด้วยโลกของศิลปะแบบ แวนโกะห์ ต้องไม่พลาดงาน Van Gogh Alive ที่ในที่สุดก็มาจัดที่ประเทศไทย ! (เห็นตั้งแต่ใน Emily in Paris ยังนึกอยู่เลยว่าจะมาไทยไหม)
Van Gogh Alive เป็นการจัดแสดงภาพวาดของแวนโกะห์ แบบ Immersive Multi-Sensory Experience แสง สี เสียง ที่เวียนไปจัดมาแล้วทั่วโลก อาทิ เบอร์ลิน, เดนเวอร์, ลอนดอน, มาดริด, มอสโก, โรม, ซิดนีย์, แฟรงค์เฟิร์ต, นาโกย่า เป็นต้น และตอนนี้มาจัดที่ ICONSIAM กรุงเทพนี่เอง อยากไปนอนดูดาวท้องฟ้าปี 1889 แบบฉบับแวนโกะห์ อย่าพลาด! วันนี้เราเก็บดีเทลต่างๆ ของงานมาฝากในโพสต์นี้เลย
Van Gogh Alive Bangkok
– ICONSIAM ชั้น 6
– วันที่ 31 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.30 – 21.00 น.
– ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ www.thaiticketmajor.com/van-gogh-alive
#VanGoghAliveBKK #ICONSIAM
มีการจำลองห้องนอนของแวนโกะห์ไว้ด้วย มันคือห้องที่ทำมาจากต้นแบบภาพวาด Bedroom in Arles เป็นภาพวาดของห้องนอนในสตูดิโอที่ แวนโกะห์ และเพื่อนอาศัยอยู่และทำงานด้วยกัน ภาพวาดดอกทานตะวันก็วาดตอนอยู่ที่นี่ ภายในงานจะมีส่วนของนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวชีวประวัติของแวนโกะห์ ตั้งแต่เด็กจนโต เตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่ห้องถัดไปที่เป็น Immersive Multi-Sensory Experience
ห้อง Immersive Multi-Sensory Experience เป็นไฮไลท์หลักของงานนี้ มีการเล่าชีวิตของแวนโกะห์ ผ่านภาพวาดของตัวเขาเอง การแสดงภาพจะไล่ไปตามช่วงอายุและประสบการณ์ตอนนั้น ถ้าใครพอรู้ประวัติของ แวนโกะห์ ห้องนี้จะอินมากบอกเลย เพราะการแสดงมาพร้อม แสง สี ดนตรีที่ทำให้เราเหมือนเข้าไปอยู่ในบรรยากาศนั้นจริงๆ
ยังมีส่วนของการจัดแสดงแบบจำลองสถานที่ที่หยิบออกมาจากภาพวาด อย่างเช่นภาพนี้ ค่ำคืนที่แสงจันทร์และดาวพร่างพราย Starry Night ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือภาพตกแต่งทั้งหมดที่ใช้ในการจัดงาน เป็นภาพวาดด้วยมือฝีมือนักศึกษาศิลปากร ซึ่งต่างจากงานนี้ที่ไปจัดที่ประเทศอื่นๆ ที่ใช้การปรินต์เอาทั้งหมด
จุดถ่ายรูปเล่นน่ารักๆ ที่ให้เรามาเป็นแบบวาดให้แวนโกะห์ สแกนคิวอาร์ดาว์นโหลดภาพได้เลยนะ หรือจะซื้อภาพใส่กรอบก็ได้เช่นกัน
Sunflower Room ห้องทานตะวันที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ห้องนี้เป็นการใช้กระจกในการช่วยสร้างภาพลวงตาของทุ่งทานตะวัน
คาเฟ่น่ารักๆ มาในธีมคาเฟ่เทอเรสในยามค่ำคืน เป็นอีกหนึ่งภาพวาดชื่อดังของแวนโกะห์ที่วาดในปี 1888 และมาถึงโซนร้านขายของ มีของที่ระลึกมากมายหลายอย่าง เห็นแล้วใจสั่น กระเป๋าเงินในมือสั่นไปหมดแล้ว!
ตามมาดูกันได้ที่ Van Gogh Alive
– ICONSIAM ชั้น 6
– วันที่ 31 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.30 – 21.00 น.
– ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่ www.thaiticketmajor.com/van-gogh-alive/
